Remm Shin Osaka l รีวิวที่พักโรงแรมเรมม์ ชินโอซาก้า ญี่ปุ่น l รีวิวฉบับที่ 11
- Angklish Kittichai Singha
- Oct 18, 2015
- 2 min read
สวัสดีครับ วันนี้เรามาอยู่กันที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งโอซาก้าและภูมิภาคคันไซก็น่าจะเป็นอีกสถานทีหนึ่งที่คนไทยเดินทางไปง่ายและเห็นภาพใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยงามอีกแห่งครับ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาววันปิยะมหาราขที่กำลังมาถึง
ที่ Remm Shinosaka ของพวกเราให้คะแนนส่วนตัวกัน A+ เลยครับ เพราะทั้งราคาทำเลและความสะดวกสบายและอะไรอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งหลังๆ หากใครได้ติดตามพันทิปที่ Remm Shinosaka น่าจะเป็นโรงแรมยอดฮิดของคนไทยอีกแห่งหนึ่งครับ แม้ว่าจะอยู่นอกเมืองไปไกลมากคืออยู่ในย่านชินโอซาก้าก็จริง แต่เดินทางเข้ามาในเมืองอย่างนัมบะ หรืออูเมดะ ได้ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีครับ ตัวโรงแรมต้องบอกว่าสะดวกสุดๆ ครับ เพราะเรียกได้ว่าตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟชินโอซาก้า และเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดินชินโอซาก้าได้อีกด้วยครับ สะดวกสุดๆ ซึ่งขอย้ำนะครับ คำว่า "อยู่ติด" ในที่นี่หมายถึง "อยู่ใน" สถานีก็ว่าได้ เพราะตอนแรกผมเข้าใจว่าคำว่าอยู่ติด คือติดกับสถานี ก้อเลยกระเหรี่ยงออกไปเดินหานอกสถานี ขอโทษครับ "หนึ่งชั่วโมงหาไม่เจอ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ที่ชินโอซาก้า เปลี่ยวและเงียบโคดๆ ครับ แถมจะไม่มีคนให้ถาม ตอนนั้นมือถือเราก้อยังไม่ได้ใส่ซิมไป เลยยังไม่ได้หากูเกิ้น แถมคนญี่ปุ่นแถวโอซาก้า ภาษาอังกฤษอย่างอืม ๆๆๆ (ผมก้อไม่ได้ว่าดีนะ) ยิ่งพากันเละเข้าไปใหญ่ กลายเป็นเราเดินลากกระเป๋าไกลออกไปจากสถานีเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ คนญี่ปุ่นใจดีจริงครับ ถ้าเขาไม่รู้ เขาก้อพยายามช่วยเต็มที่ แต่ช่วยให้หลงครับ เพราะเขาก้อหลงไปกับพวกผมด้วย เขาก้อขอโทษเราแล้วเราอีก ที่พาหลง แต่ก้อปล่อยเราอยู่กลางสวนสาธารณะนั้นแหล่ะ เอาล่ะสิ ทั่งเปลี่ยว ทั้งเงียบ นี่มันคือญี่ปุ่น ที่คึกคักหรือฟระเนี่ย ตรูมาผิดประเทศหรือเปล่า จนในที่สุดก้อเจอโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ก้อเลยเข้าไปถาม โชคดีที่ภาษาญี่ปุ่นงูปลาๆ สมัยมหาวิทยาลัยพอใช้ได้ เรมุ โอซาก้า โฮเตรุวะ โคโคะเอ้ อิคิมัสก๊ะ สำเนียงแบบกระแดะสุดๆ โชคดีที่เขาฟังรู้เรื่อง แต่โชคร้ายคือ เขาตอบมาเป็นชุดๆ เลย ฟังไม่ออก แต่จับได้ว่า อุชิโระ ฮิดาริ มิงิ คือ ให้ไปข้างหลัง ไปทางซ้าย ไปทางขวา เอ่อ แล้วจะไปยังไงล่ะ จนมาสะดุดคำหลังนี้แหล่ะ เอคินากะ ข้างในสถานี ก้อเลยนึกได้ว่า อาจจะอยู่ข้างในสถานี ก้อเลยตัดสินใจเดินกลับไปที่สถานีอีกใช้เวลาเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง ถึงสถานีแล้ว ยูเรกา ถ้าไม่ใจร้อนออกมานอกสถานี เดินตามคนเยอะๆ ไปหน่อย ไปทางรถไฟใต้ดิน อยากจะเขกกะโหลกตัวเอง อยู่ติดกับสถานีจริงๆ แบบในสถานีเลยครับ เดินออกจากทางเข้าชานชลาแค่ 3 นาที ครับ ย้ำครับย้ำ สามนาที แต่นั้นแหล่ะ หนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาไม่เสียหลาย เพราะได้ฝึกภาษาญี่ปุ่น แล้วศัพท์ที่เคยลืมๆ ไป ปรากฎว่ามันกลับมาได้เยอะเลย เรียกได้ว่า เอามาใช้งานได้รอดตายในหลายๆ สถานการณ์เลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนไปเกิดอุบัติเหตุที่โตเกียว ภาษาญี่ปุ่นแบบหนึ่งคลาสในมหาวิทยาลัย บวกกับความสนใจเล็กน้อย ตอนเอามาใช้เวลาเล่นเกมส์ RPG มันช่วยได้เลยนะ


ห้องที่เลือกพักเป็นแบบ Semi-Double ครับ ซึ่งถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก้อพักสำหรับสองคนนอนสบายๆ ครับ ยิ่งอากาศหนาวๆ แล้วอุ่นดีแท้ฮักครับ โรงแรมมีวิวสองด้านครับ คือด้านที่ติดกับสถานีจะเห็นวิวเมืองโอซาก้า ซึ่งสวยกว่าด้านของผมซึ่งเป็นวิวเมืองชินโอซาก้า แต่ด้านโน้นถึงแม้จะสวย แต่มันสว่างครับ ถึงจะติดแบล็กเอ้าท์ก้อเหอะครับ สำหรับฝั่งผม ตอนกลางคืนนี้แทบจะไม่เห็นอะไรเลยครับ ต้องตอนเช้าถึงจะสวยครับ แต่จะเป็นวิวเมืองโล่งๆ ไม่มีแสงสีแบบอีกฝั่งหนึ่งครับ การให้คะแนนนั้น ผมเฉลี่ยน้ำหนักตามนี้นะครับ แต่ขอเน้นว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ได้เป็นม้าแต่อย่างใด แต่สำหรับผมว่าสำหรับคนที่มีงบกลางๆ Remm ShinOsaka เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยครับ ทำเล .... ให้ 4.5/5 เพราะไม่ได้อยู่ในย่านกลางเมืองอย่างนัมบะหรืออูเมดะ แต่แม้จะอยู่ที่ชินโอซาก้าซึ่งประมาณแถวๆ บางกะปิ หรือหัวหมาก ประมาณนั้น แต่การเข้าเมืองสะดวกสบายมากครับ ความสวยงามและความสะดวกสบายของสถานที่ ... ให้ 4.5/5 ครับ แม้ห้องจะดูเล็ก แต่ไม่อึดอึด การจัดห้องเป็นแบบสไตล์โมเดิร์น มีห้องน้ำแบบเซ็กซี่ แต่ก็เลื่อนม่านลงมาปิดได้ อาบน้ำไปดูหนังไปสบายดีครับ ไวไฟแรงมั่กๆๆๆๆ ผมเปิดดูทีวีเมืองไทยผ่านทรูวิชั่น ชัดแจ่มไม่มีหลุด ฟังพี่ป๋องไวไฟไม่มีสะดุดเลยครับ แต่เสียหนึ่งอย่างครับ คือห้องนั้นมืดไปหน่อย ยิ่งติดโทนสีดำแล้วยิ่งมืด ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่พอไปเปรียบเทียบกับ Remm Akihabara ที่เราไปพักอีกแห่งหนึ่งนั่น อันนั้นใช้โทนสีขาวแดง กลายเป็นห้องสว่างมาเลย ทั้งที่ใช้ไฟเหมือนกัน แต่ตรงนี้ตัดนิดเดียว เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายอื่นๆ แถมมีเก้าอี้นวดเล็กๆ (ย้ำว่าเล็กๆ นะครับ) มาให้ใช้สะดวกสบายครับ ห้องพัก ... แน่นอนครับ 4/5 ห้องพักเล็กๆ แบบห้องพักญี่ปุ่น แต่สไตล์โมเดิร์นครับ ห้องน้ำ ... ให้ 5/5 ครับ อันนี้ถูกใจคนไทยสุดๆ ห้องน้ำถึงจะเล็กแต่ไม่แคบ โดยเฉพาะความแรงของน้ำแล้วอาบเรนชาวเวอร์นี้ ผมยกให้เป็นวอเตอร์ฟอลชาวเวอร์ดีกว่าไหม อะไรจะร้อนจะอุ่นได้เสถียร และแรงหัวเกือบหลุดครับ เวลาไปเดินมาเยอะ ใช้น้ำนวดหัวนวดตัวนี้ อาบน้ำเสร็จไม่นอนแล้วยังออกไปเที่ยวต่อได้สบายเลยครับ ราคา ... ขออนุญาตให้ 4.5/5 นะครับ ไม่ถูกแน่ๆ ถ้าเทียบกับโฮสเต็ล แต่ถ้าเทียบกับสี่ดาวอื่นๆ ราคาสามพันปลายๆ นี้เรียกว่าไม่แพงครับ แถมผมใช้ Early Bird Rate อีกยิ่งคุ้มมากๆ ครับ สรุปคะแนน 90% ครับ แถมคะแนนพิสวาสให้ครับ เพราะบริการดีเหลือหลาย เนื่องจากตอนที่ผมต่อไปเซนได มัวแต่รีบๆ เพราะต้องไปเที่ยวเช้าสุด ซึ่งต้องไปเปลี่ยนที่สถานีที่โตเกียว ดันลืมแบตกล้องและชาร์จเจอร์ไว้ครับ ตอนแรกไม่แน่ใจว่าลืมที่ไหน เพราะมีอุบัติเหตุกับเราที่โตเกียวอาจหายตอนนั้นได้ ปรากฎว่าพอมาถึงที่เซนได เช็คเมล์แล้วเจอเมล์โรงแรมแจ้งว่าเราลืมของไว้ ก้อเลยถามว่าจะส่งให้เราได้ไหม เพราะขากลับเราจะไปพักที่ Remm Akihabara อีกสามวันข้างหน้า ปรากฎว่าเขาส่งมาให้ฟรีๆ เลยครับ แบบเช็คอินปุ๊บ เอาของมาให้ปั๊ปเลย ต้องชื่นชมในบริการจริงๆ ครับ เอาไปเลย 5 กะโหลก A+ ครับ จุดเด่น - ทันสมัย อยู่ติดกับสถานี Shin Osaka ซึ่งเหมือนห้างสรรพสินค้าย่อมๆ - ไวไฟแรง น้ำแรงโพดๆๆๆๆๆ - ราคาคุ้มค่ากับที่จ่ายไป จุดอ่อน - อยู่นอกเมือง รอบโรงแรมไม่มีแหล่งท่องเที่ยวเลย - ห้องมืดไปนิด ขอบคุณครับ กดดูที่ภาพแรกเพื่อดูภาพเต็มๆ ของที่พักได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ



Comentarios