Koyasan - Japan ใบไม้เปลี่ยนสีแรกที่คันไซ (รีวิวฉบับที่ 7)
- Angklish Kittichai Singha
- Oct 7, 2015
- 2 min read

เดือนตุลาคมแล้วอีกไม่กี่วันก็สิ้นปีแล้ว หลายคนเริ่มนึกถึงวันหยุดพักร้อนกันแล้วสิ เวลาเหลือไม่มากแต่เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยกำลังมุ่งหน้าไปเที่ยวที่ใกล้ๆ แต่อยากไปมานานแล้วอย่างญี่ปุ่นแหงมๆ โดยเฉพาะเดือนตุลาคมแล้วเป็นอีกหนึ่งฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ก่อนเข้าฤดูหนาว แต่นั้นแหล่ะถ้าอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีต้องตรงไปโน่นเลยอย่างน้อยตอนบนของเกาะฮอนชูหรือภาคโทโฮคุ (ภาคอีสาน) ที่มีแต่ภูเขาสูง หากอยากไปเที่ยวแบบไม่อยากทิ้งเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว อาจจะผิดหวังเพราะกว่าใบไม้จะแดงได้เห็นทั่วไปอาจล่วงเข้ากลางพฤศจิกายนโน้นครับ แล้วยิ่งลงใต้อย่างโอซาก้ายิ่งอาจจะต้องรอไปปลายพฤศจิกายนต้นธันวาคมไปแล้วโน้นแหล่ะ
แต่หากไม่มีทางเลือกต้องไปเที่ยวโอซาก้าหรือในภาคคันไซแล้วอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีจริงๆ ก็สามารถเดินทางไปที่ใกล้ๆ โอซาก้าหรือเกียวโตได้ ก็คือเมืองโคยะ บนภูเขาชื่อเดียวกันหรือโคยะซัน (Koyasan) ที่หลบตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและความสงบแบบโลว์ไลฟ์แบบเซนแท้ๆ เพราะโคยะยังเป็นต้นกำเนิดศาสนาเซนของญี่ปุ่นอีกด้วย จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองมรดกโลกด้วยอีกแห่ง
การเดินทางไปยังโคยะซันควรใช้ตั๋วแบบไหนดี ที่ญี่ปุ่นมีตั๋วรถไฟแบบเหมาๆ ที่เรียกว่า พาส Pass หลายแบบและออกแบบมาแต่ละภูมิภาคเสียด้วยสิ หากไม่อยากคิดมากก็ซื้อ JR Pass ไปเลย เพราะท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ แต่ถ้าอยากประหยัดแล้วไม่ได้เดินทางทั่วประเทศซื้อแบบเน้นรายภูมิภาคก็ดีนะ อย่างตอนที่แอดมินไปก็ได้ตัวประเภท JR Kansai Wide Pass อยู่ ตั๋วนี้ใช้เดินทางด้วยรถไฟของ JR ได้ทั่วภูมิภาคคันไซ ซึ่งมีเมืองสำคัญอย่างโอซาก้า เกียวโต โกเบ วากายาม่า และใช้เดินทางรถไฟด่วนจากสนามบินคันไซมายังสถานีที่โอซาก้าได้อีกด้วย แต่ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งก่อนนะครับ Japan Railways หรือการรถไฟญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่นี้นะ ยังมีรถไฟของเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ JR Pass ไม่สามารถใช้ได้ แต่นั้นแหล่ะ JR ก็รวมแล้วประมาณเกินร้อยละ 90 ของรถไฟทั้งหมดของญี่ปุ่นแล้ว หากไปเจอรถไฟสายท้องถิ่นก็แค่ซื้อตัวเพิ่มหลักไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้นเอง


ถ้าใช้พาสตัวนี้เราต้องไปเริ่มต้นกับที่สถานีนัมบะกัน แล้วนั่งรถไฟไปลงที่เมืองวากายาม่าครับ แม้จะนั่งรถไฟด่วนก็ใช้เวลาประมาณ 79 นาที แล้วจากสถานีวากายาม่านั่งไปลงที่สถานีฮาชิโมโต้อีก 62 นาที ครับ แล้วจากสถานีฮาชิโมโต้อันนี้เราต้องไปนั่งรถไฟไปลงที่สถานีโกคุราคุบาฉิ ซึ่งอันนี้ใช้ JRKW ไม่ได้นะครับ ใช้เวลาอีก 39 นาทีราคา 440 เยน รวมระยะเวลาเดินทางทั้งสิ้น 3 ชั่วโมงครับ และก้อต้องเสียตังค์ค่าเคเบิลคาร์ขึ้นไปอีก 390 เยน และซื้อตั๋วพาสของรถเมล์อีก 290 เยน เพื่อเข้าไปในเมืองโคยะที่สถานีเชนจูอิชิบาฉิ ครับ เท่าไรบวกกันเองแต่รวมขากลับด้วยด้วยนะครับ อีกทางเลือกหนึ่งแบบไม่ต้องคิดมากครับ ไปถึงสถานีนัมบะ เดินไปทางที่ Travel Center ขอซื้อตั๋ว Koyasan World Heritage ครับ ราคาไปกลับแบบ 2 วัน (แต่ใช้วันเดียวได้) ราคารวม 3400 เยนครับ ราคานี้รวมตั๋วรถไฟไปกลับ เคเบิ้ลคาร์ และก้อตั๋วรถเมล์พาสด้วยครับ และไม่ต้องไปหลายต่ออีกด้วย จากนัมบะเรานั่งยาวไปลงที่สถานีฮาชิโมโต้แล้วไปต่อที่โกคุราคุบาฉิเหมือนกันเลยครับ แต่ดูเวลาดีๆ นะครับ เพราะบางช่วงเวลารถไฟก้อไปถึงเมืองโกคุราคุบาฉิเลย อยากผมขาไปต้องไปต่อ แต่ขากลับเนี่ยวิ่งตรงกับไปนัมบะได้เลยครับ รวมเวลาแล้วแค่ ชั่วโมงครึ่งครับ เซฟกว่าใช้ JRKW ในเรื่องเวลา เก็บ JRKW เอาไว้ไปเมืองอื่นดีกว่าครับ

ที่สถานีฮาชิโมโต้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเราควรไปนั่งรถไฟท้องถิ่น ก็คือนั่งรถไฟคันสีฟ้าโบราณๆ นั้นแหล่ะครับ แอบดูน้องๆ นักเรียนญี่ปุ่นน่ารักๆ สักหน่อย ผมว่าแต่งตัวน่ารักไม่น้อยไปกว่าเมืองใหญ่ๆ เลย รถไฟพาเรารับอากาศเย็นสบายออกไปทางหนาว มุ่งหน้าไปยังสถานีโกคุราคุบาฉิที่อยู่ปลายเขาด้านล่างของเมืองโคยะครับ ส่วนขากลับนอกจากจะกลับรถสีฟ้าได้ตามปกติแล้ว ในบางห้วงเวลาเราจะได้เจอรถด่วนสีแดงหรือสาย express ที่มุ่งตรงไปโอซาก้าเลยไม่ต้องไปต่อที่สถานีฮาชิโมโต้อีกแล้ว เสียเงินเพิ่มอีก 780 เยน แต่ถ้าใครเวลาเหลือๆ ผมว่าลงที่สถานีฮาชิโมโต้ ดูบ้านเมืองต่างจังหวัดของเขาบ้างจะเห็นเลยว่าเขาอยู่กันอย่างไร ใช้วันพักร้อนของเราอย่างไม่รีบร้อนก็ได้ฟิลไปอีกแบบหนึ่ง

เมื่อมาถึงเมืองสถานีโกคุราคุบาฉิแล้ว ก็ต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปบนเขาถ้าไม่ได้ซื้อตั๋ว World Heritage ไว้ก็ต้องมาซื้อตั๋วเคเบิลคาร์เพิ่มอีกด้วย โดยเคเบิลคาร์จะเป็นตัวเชื่อมสถานีสุดท้ายนี้กับเมืองโคยะที่ตั้งอยู่บนเขา แต่พอขึ้นไปแล้วเจอเมืองหรือไม่ ยังไม่เจอครับ แต่จะพบกับสถานีรถเมล์ที่วิ่งรอบเมืองโคยะ ซึ่งหากใครอยากจะเดินเข้าเมืองไม่ได้นะครับ ต้องนั่งรถบัสเข้าไปอย่างเดียว เพราะหนทางแคบไม่มีไหล่ทางให้เดินเลยครับ ขนาดรถบัสยังใช้เวลาตั้ง 7 นาทีกว่าจะถึงเนียวนิงโดสำนักนางชีจุดแรกก็ไปเข้าไป 7 นาทีแล้ว แต่ถ้าจะเดินก็ได้นะครับ จะมีทางเดินจากสถานีรถบัสเลาะตามไหล่เขาไปก็จะได้เห็นสภาพธรรมชาติในป่าที่สวยงามเหมือนกัน ซึ่งเป็นเส้นทางจารึกบุญใช้เวลาทั้งสิ้น 55 นาที ก็จะถึงประตูใหญ่หรือ Daimon เป็นแห่งแรก เพื่อจะนั่งรถไปเที่ยวจุดอื่นๆ ของเมือง แต่ถ้าใครอยากเดินให้ครบทุกจุดของเมืองจากประตูไดมอนไปท้ายๆ เมือง ทั้งหมดก็ใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ




โคยะซันเป็นสถานที่แรกๆ ในการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นเมื่อครั้งศาสนาพุทธได้เผยแผ่เข้าไปในญี่ปุ่นเมื่อพันปีก่อน เป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธนิกายชินงอน ที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปีพุทธศตวรรษที่ 13 หรือเมื่อ 1200 ที่แล้ว โดยพระสังฆราชาโคโบะ หรือ ท่านโคโบะไดฉิได้มาสร้างวัดและสถานปฏิบัติธรรมที่โอคุโนะอินทางตะวันออกสุดของเมืองโคยะ และที่ศาสนสถานโอคุโนะอินนี้เองก็เป็นที่ประดิษฐสุสานและสังขารของท่านโคโบะครับ โดยเดินจากหน้าสถานีไปคารวะท่านได้ใช้เวลา 30 นาที ครับ ที่โอคุโนะอินยังเป็นสถานที่ที่จุดชมใบไม้หลากสีที่ขึ้นหน้าขึ้นตาที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วยที่หนึ่งอีกด้วย ถ้ามาถึงโอคุโนะอิน สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการถ่ายรูปกับใบไม้แสนสวยหลากสีนี้นั้นเอง แต่สำหรับคนที่กลัวสิ่งลี้ลับ โอคุโนะอินยังเป็นสุสานที่ฝังบุคคลๆ สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย







อากาศหนาวเย็นกำลังสบายๆ แถมในสุสานในเขาไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นสถานที่น่ากลัวแต่อย่างใด กลับทำให้จิตใจสงบจนเวลาผ่านไปสองสามชั่วโมง มาเริ่มรู้สึกว่าน่ากลัวตอนที่ หันไปดูรอบๆ ตัว ทัวร์ไทย ทัวร์จีน ทัวร์ญี่ปุ่นเอย เริ่มกลับกันไปหมดแล้ว กลายเป็นมีคนไม่มากแล้ว ก้อเลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาไปเก็บแต้มกันที่อื่นของโคยะซันบ้างดีกว่า บ่ายโมงกว่าแล้วด้วยต้องไปหาอะไรทานในเมืองด้วย ว่าแล้วก้อรีบจ้ำ ดีที่ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่เยอะมากเหมือนช่วงเช้า
ความที่โคยะซันเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาพระภิกษุและนักแสวงบุญในพุทธศาสนาทั้งหลาย ประตุใหญ่หรือประตูไดมอน ก็คือจุดแบ่งระหว่างโลกภายนอกกับความสงบภายในร่มเงาแห่งศาสนา (แม้ว่าตอนนี้เดินเข้าไปในเมืองจะกลายเป็นชุมชนแล้วก็ตามเหอะ) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเคเบิ้ลคาร์จากเมืองโกคุราคุบาฉิด้านล่างได้ แต่นักแสวงบุญเองก็นิยมเดินขึ้นเขาบนเส้นทางธรรมชาติมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

จากประตูไดมอน (Daimon Gate) เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเดินชมเมืองได้เลยครับ เพราะต่อจากนี้ส่วนใหญ่แล้วสถานที่ท่องเที่ยวจะอยู่ติดๆ กันไปหมด เห็นฟ้าใสๆ แบบนี้ อีกไม่นานฝนแบบหนักจะมาแล้วครับ


ไม่ไกลจากประตูไดมอนเท่าไร เดินก็ประมาณ 30 นาที หรือนั่งรถบัสก็ประมาณ 4-5 นาทีเองครับ จะมาถึงจุดศูนย์กลางของเมือง เป็นที่ตั้งขอศาสนาสถานมากมาย อย่างการัน (Garan) ซึ่งเป็นที่พำนักของสังฆราชโคโบ และเป็นจุดเริ่มต้นของพุทธศาสนานิกายชินงอน หลังจากที่ท่านโคโบกลับจากจารึกแสวงบุญที่เมืองจีนครับ โดยที่สำนักการันเนี่ยจะมีศาสนาสถานที่สำคัญอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ อย่างหอคอนโดะ ซึ่งทำจากไม้ทั้งหลังและเป็นที่ประดิษฐสถานพระยาคุฉิเนียวไร Yakushi Nyorai เทพแห่งเภสัชกรรมและการรักษาโรค หรือพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าเฉพาะในนิกายมหายาน คนไทยจึงไม่ใคร่รู้จัก นอกจากนี้ยังมีเจดีย์แดงหรือคนปนไดโตะ Konpon Daito ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันกับหอคอนโดะ เป็นเจดีย์ที่สร้างมาตั้งแต่พันกว่าปีที่แล้ว มีความสูง 45 เมตร ซึ่งใช้เป็นที่ประดิษฐสถานพระพุทธไดนิจิเนียวไร หรือพระมหาไวโรจนพุทธะ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่ได้รับความเคารพอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น จีนและเกาหลี ซึ่งพระองค์เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามคติของพุทธนิกายมหายาน ที่แพร่หลายมาจากธิเบต จึงเป็นพระพุทธเจ้าที่เคารพสูงสุดของนิกายชินงอนด้วยครับ ส่วนศาสนาสถานอื่นๆ โดยรอบก็จะเป็นเจดีย์ซ้าย เจดีย์ขวา และวิหารโคยะเมียวจีนประจำเทพเจ้าผู้ปกปักษ์คุ้มครองภูเขาโคยะครับ




แม้จะเป็นเมืองขนาดเล็กแบบเดินถึงกันหมด แต่เมื่อไปแล้วความสงบร่มเย็น ก้อทำให้เราเผลอลืมเวลาไปนานโข กว่าจะได้กินข้าวเที่ยวเผลอๆ ข้าวเช้าด้วยซ้ำกับร้านโซบะเล็กๆ ก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสามแล้ว และเหมือนฟ้าฝนอยากให้หยุดพัก ไม่นานนักฝนก็ตกมาเม็ดใหญ่ อากาศหนาวเย็นเฉียบเกินกว่าจะเดินเล่นตากฝนอีกไหว แล้วบรรดาทัวร์ทั้งหลายก็เหมือนจะพร้อมใจกันหายไปหมด เหมือนเหลือแค่เราสองคนในเมืองจริงๆ ครับ อ้อ มาเที่ยวโคยะซันนี้บรรยากาศแบบไปไหว้พระเก้าวัดอยุธยาอะไรประมาณนัก ไม่ค่อยได้เห็นหนุ่มสาวเลยครับ ยิ่งเป็นวันธรรมดาแล้วด้วย ยิ่งทำให้เราเหมือนเวลาหยุดนิ่งเอาทีเดียวเลย ตกบ่ายพอฝนตก ร้านค้าต่างๆ ก็เหมือนจะพร้อมใจกันปิดด้วยซ้ำ งั้นขอปิดกระทู้นี้ด้วยภาพที่เหลือของเมืองโคยะ แถวๆ ฮวงซุ้ยของตระกูลโชกุนโตกุกาว่านะครับ กับบรรยากาศฝนโปรย มันหนาวจับใจแต่ก้อสวยจับจิตจริงๆ ขอบคุณขอรับ แล้วถ้าอยากดูภาพเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูในห้องภาพ Gallery ได้เลยนะครับ หรือจะตลิกที่ไอคอนด้านล่างก็ได้ครับ พบกันใหม่รีวิวสถานีที่หน้านะครับ



คลิกรูปกล้องเพื่อดูรูปที่เกียวกับโคยะซันได้เพิ่มเติมนะครับ
Comments