Vienna - Austria (1) ไปเดินเที่ยวเมืองสวยๆ เริ่มต้นกันที่เวียนนา (ตอน1) (รีวิวฉบับที่ 5)

วันนี้ย้อนหลังไปไกลหน่อยนะครับ เมื่อสี่ปีทีแล้วกับทัวร์ยุโรป โดยรอบแรกนี้จะพาไปเที่ยวกรุงเวียนนา หรือ Wien ในภาษาเยอรมันอันเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรียกันก่อน โดยรีวิวตอนแรกของเวียนนานี่จะพาไปเดินเที่ยวชมวิวเป็นน้ำจิ้มกันก่อนเดินทางเข้าไปชมสถานที่สำคัญๆ ของกรุงเวียนนากัน

หลายคนถือเอานครเวียนนาเป็นเมืองในดวงใจ บางสำนักให้เวียนนาเป็นปารีสแห่งยุโรปกลางด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับความสวยงามอลังการแล้วเวียนนาสวยอยู่แล้วครับ แต่จุดอ่อนซึ่งหลายคนอาจจะไม่คิดว่าเป็นจุดอ่อนคือแม่น้ำดานูบครับ ดานูบที่เวียนนาไม่ใคร่เหมือนเมืองอื่นเท่าไรครับ เวียนนาคะแนนเต็มในด้านความกระทัดรัดเหมาะกับนักท่องเที่ยว และความสะดวกสบายครับ ส่วนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือความพลุกพล่านของเมืองที่ค่อนข้างแออัด และผู้คนซึ่งเป็นมิตรแต่เป็นอาจจะน้อยกว่าเมืองอื่นนิดหน่อยครับ

นครเวียนนา ชื่อนี้เป็นเมืองในฝันของใครหลายคนโดยเฉพาะบรรดาศิลปินและนักดนตรี เพราะนักดนตรีเอกอย่างโมสาร์ทเองก้ออยู่อาศัยในเวียนนา เวียนนายังเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เป็นที่พำนักของราชินีเหล็กอย่างจักรพรรดินีพระนางมาเรีย เทเรซ่า พระมารดาของพระนางมาเรีย อันโตเน็ต และยังเป็นฉากหลังของเรื่องราวโรแมนติกหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องราวของพระราชินิเลอโฉมอย่าง "Sissi" ที่ฮอลีวู๊ดเอาพระประวัติส่วนนึงไปทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วครัฟ ถนน kärntner straße เป็นเสมือนหนึ่งศูนย์กลางที่เชื่อมต่อของเมืองประมาณราชประสงค์บ้านเรา เราจะใช้ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางเริ่มต้นเพื่อไปชมจุดต่างๆ และผู้คนในนครเวียนนาแห่งนี้ครับ

เวียนนา หรือกรุงเวียน (Wien) ในภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ของเวียนนาเก่าแก่มาก และมีหลักฐานว่ามีชุมชนตั้งอยู่ย้อนหลังไปจนถึงยุคหินเลยครัฟ ส่วนประวัติศาสตร์ของเวียนนาในยุคประวัติศาสตร์เริ่มตั้งแต่จักรวรรดิโรมัน ซึ่งชาวโรมันเป็นผู้สร้างเมืองนี้ขึ้นมาในราวคริสตศตวรรษที่ ๑ ให้ชื่อว่า Vindobona เพื่อเป็นเมืองหน้าด่านจากการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าเยอรมันครับ ซึ่งศูนย์กลางของ Vindobona เชื่อว่าอยู่แถว Hoher Markt แหล่งช๊อปปิ้งแต่โบราณนั้นเองครับ

เดินไปเดินมาพาไปเที่ยวหนึ่งในแหล่ง ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งครับ โบสถ์ St.Stephen of Vienna ครับ ที่เรียกว่า of Vienna เพราะในยุโรปกลางนี้โบสถ์ St.Stephen เยอะมากครัฟ โบสถ์ St.Stephen ถือเป็นประมุขแห่งโบสถ์ทั้งปวงในออสเตรีย และยังเป็นที่พำนักของอาร์คบิชอฟแห่งเวียนนาด้วยครับ สถาปัตยกรรมเป็นแบบโกธิคแน่นอนครับเห็นก้อรู้ ซึ่งเป็นลักษณะที่ได้รับอิทธิพลมาจากโรมันและแพร่หลายอย่างมาในยุโรปช่วง ศตวรรษที่ 11 และ 12 ครัฟ รีวิวหน้าจะพาไปนมัสการด้านในกันนะครับ คราวนี้เรามาเดินเล่นซึมซับบรรยากาศของเมืองกันก่อน

อาคารบ้านเรือนในเขตเมืองเก่ามีอายุเป็นร้อยปีครัฟ สถาปัตยกรรมต่างๆ ของเขาอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี แต่อาจจะขัดตาสักหน่อยในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว เพราะเขาจะเอาตะช่ายมาคลุมป้องกันนกต่างๆ มาเกาะ แล้วถ่ายไว้ มูลนกนี้คือกรดดีๆ ที่ทำรายสถาปัตยกรรมมามากแล้ว

Pestsäule หรือ plague column เสาสัญลักษณ์แทนโรคระบาดกาฬโลก บนถนนกราเบิน ที่จักรพรรดิลีโอพอยด์ทรงสร้างไว้แก้บนเพื่อให้เวียนนารอดพ้นจากกาฬโรคในปี 1967 โดยมีสัญลักษณ์ตรีเอกภาพบนเสาสไตล์คอรินเธียน พร้อมรูปเทวดาอีก 9 องค์

กรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจของ ราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดวงศ์หนึ่งของยุโรปอยู่หลายร้อยปีคือ ราชวงศ์ฮับส์บรวก (Hubsburg) ซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งจักรวรรด์โรมันศักดิ์สิทธิ์ จักรวรรดิออสเตรีย จักรวรรดิสเปน และอีกหลายประเทศในยุโรปทั้งอังกฤษ ฮังการี โบฮิเมีย โปรตุเกส คาสทีล อารากอน โครเอเชีย ดัลเมเทีย กาลิเซียและโลโดมีเรีย โดยต้นราชวงศ์มีพื้นเพมาจากสวิสเซอร์แลนด์ก่อนจะเข้าปกครองทั้งออสเตรีย ตั้งแต่ปี 1282 จนถึง 1780

อ้อ ลืมบอกไปครับเสาที่เห็นเป็นของร้านไอติมที่ผมว่าคิวยาวมมาก (แต่ไม่อร่อยเท่ารถเข็นของลุงหน้าโบสถ์ St.Stephen ไอติมรถแอร์ดแบร์อร่อยมั่ก) ร้านอยู่หน้าพระราชวัง Hofburg Imperial Palace แต่วันนี้เราจะข้ามไปก่อนครับ

Street Show ที่เห็นได้โดยทั่วไปบนถนนโคห์มาร์ตและบรรยากาศส่วนอื่นๆ ของเมือง ทำให้นครเวียนนาเป็นเมืองหลวงขนาดย่อมๆ ทั้งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและธุรกิจด้วย แม้จะเป็นเมืองที่สวยงามแต่คนส่วนใหญ่น่าจะอยู่นอกเมืองมากกว่า ต้องยอมรับว่าเวียนนามีระบบขนส่งมวลชนที่ดีติดอันดับต้นๆ ของโลกด้วย

พยายามจับแผนที่จะเดินหา Holocaust Memorial เพื่อระลึกถึงชาวยิวออสเตรียที่ฮิตเลอร์สั่งฝังก็หาไม่เจอ หลงไปหลงมาแทน จนป่านนี้ยังไม่เจอเลยครับ สุดท้ายมาโผล่ตรงอาคาร Kunsthistor Museum นะครับ ด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระนางมาเรีย เทเรซ่าครับ

พระนางมาเรีย เทเรซ่าแห่งออสเตรีย ทรงเป็นพระประมุขที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรปยุคหนึ่ง ทรงเป็นสมเด็นพระจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ ราชินีนาถแห่งฮังการี โบฮีเมีย โครเอเชียและสลาโวเนีย และยังทรงเป็นพระประมุขหญิงองค์เดียวแห่งอาณาจักรออสเตรียอีกด้วยครับ ทรงประสูติในปี ๑๗๑๗ หรือตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา แม้ จะเป็นหญิงและตามกฎมณเฑียรบาลกำหนดให้ผู้ชายเท่านั้นที่สืบราชบังลังก์ได้ แต่สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 ได้กำหนดกฎมณเฑียรบาลพิเศษไว้สำหรับพระองค์ให้เป็นองค์รัชทายาทหญิง ซึ่งก่อให้เกิดสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรียขึ้น โดยเฉพาะปรัสเซียถึงกับยื่นข้อเสนอให้พระนางมาเรียสมรสกับกษัตริย์ของตนด้วย และเพื่อยุติสงครามดังกล่าวในช่วงต้นเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระนางยกราชบัลลังก์ให้กับพระเจ้าคาร์ลที่ 7 ก่อนที่อีก 5 ปีต่อมาจะทรงอภิเษกสมรสกับดยุคฟรานซิสที่ ๓ แห่งลอเรน และสถาปนาพระสวามีเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ แต่อำนาจอยู่ที่พระองค์เพียงผู้เดียว ยังความไม่พอใจให้กับปรัสเซียจนก่อให้เกิดสงครามนานถึง 7 ปี

เนื่องจากทรงเป็นประมุขหญิงจึงถูกท้าทาย โดยการรุกรานจากประเทศอื่นๆ โดยรอบตั้งแต่ต้นรัชกาลตั้งแต่การรุกรานของบาวาเรีย (มิวนิค) ฝรั่งเศส และปรัสเซียทรงชนะคู่ปรับอย่างปรัสเซีย และได้เนเธอร์แลนด์มาจากฝรั่งเศส แต่ก็ต้องเสียดินแดนบางส่วนในอิตาลีให้กับสเปน

ด้วยความเป็นสตรี พระนางได้ปฏิรูปการปกครองให้มารวมศูนย์ที่ตัวพระนางมากขึ้น ทรงเป็นนักอนุรักษ์นิยมและเคร่งศาสนาถึงกับไล่ชาวยิวออกจากปร๊าก และไม่ยอมรับอังกฤษที่สถาปนานิกายแองกลิอัน (เพื่อให้พระเจ้าเฮนรี่ได้ทรงหย่าและแต่งงานใหม่ได้เรื่อยๆ) ในช่วงปลายรัชกาลพระนางทรงติดไข้ทรพิษแต่ก็ทรงหายดีทำให้พระองค์ทรงหันมาสนใจปฏิรูประบบแพทย์และสาธารณสุขมากขึ้น รวมไปถึงด้านการศึกษาที่มีเวียนนาเป็นศูนย์กลาง พระนางและดยุคฟราน ซิส สตีเฟน ทรงมีพระราชบุตรถึง 16 พระองค์ ที่สำคัญได้แก่ จักรพรรดิโจเซฟ เบเนดิกต์ ที่ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระนาง จักรพรรดิปีเตอร์ ลีโอโพลด์ โจเซฟ รวมถึงพระธิดาองค์สุดท้องที่โด่งดังคือ อาร์คดัชเชชมาเรีย อังตัวเนต โจเซเฟ โจฮันนา ที่ต่อมาทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส และเสด็จสวรรคตจากกิโยตินจากการปฏิวัติฝรั่งเศสนั้นเองครับ พระนาง เสด็จสวรรคตในปี 1780 หรือสองปีก่อนสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ด้วยพระชนม์มายุ 63 พรรษา ทรงเป็นพระประมุขหญิงที่ทรงอำนาจมาก และพระบรมศพก็ทรงถูกนำไปฝังไว้เคียงข้างกับพระสวามีในแถวๆ ที่เราไปเดินกันนี้แหล่ะครับ ตรงจตุรัสฮัสบร๊วกนั้นเองครับ

พาเที่ยวรอบเมืองมาเยอะแล้ว ไปดูบรรยากาศริมดานูบกันครับ ดานูบที่เวียนนาดูไม่ใหญ่มาก และออกไปนอกเมืองค่อนข้างเยอะ เพราะดานูบทีเวียนนาจะถูกแบ่งโดยเกาะใหญ่กลางแม่น้ำ เป็นเหนือใต้ ทำให้ดูเล็กเมื่อเทียบกับที่อื่นครับ เกาะกลางน้ำนี่ค่อนข้างใหญ่ครับ จนเป็นที่ตั้งของสหประชาชาติได้เรียกว่า UNO City เพราะเวียนนาเป้นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติภาคพื้นยุโรปด้วย จึงเป็นแบบเมืองใหม่มีตึกสูงๆ เยอะๆ ไปเลยครับ

และขออำลาวันนี้ด้วยรูปสุดท้ายตรงหน้าโรงแรมนี้ครับผม ขอบคุณมั่กๆ ครับที่เข้ามาเยี่ยมชม ส่วนกระทู้ถัดๆ ไปจะพาเข้าไปชมสถานที่สำคัญต่างๆ ของเวียนนา รวมถึงพระราชวังเชินบรุนด้วยครับ และส่งท้ายกดที่ไอคอนกล้องด้านข้างเพื่อเข้าชมแกลอรี่ของนครเวียนนาครับ

(Click camera icon to view Vienna City Gallery)

#เวยนนา #ยโรป #ออสเตรย #เทยวตางประเทศ