top of page

Monaco l ย้อนร้อยโมนาโก l รีวิวฉบับที่ 10

  • Writer: Angklish Kittichai Singha
    Angklish Kittichai Singha
  • Oct 18, 2015
  • 1 min read

The Tête de Chien หรือภูหัวหมา สัญลักษณ์เหนือนครโมนาโก กดที่ภาพเพื่อเข้าสู่แกลอรี่โมนาโก

แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ยังจำครั้งแรกที่นั่งรถไฟแบกกระเป๋าเที่ยวยุโรป เป็นการเที่ยวยุโรปครั้งแรกซึ่งเราตัดสินใจไปกันเองด้วยซ้ำ แต่ประสบการณ์ ความทรงจำที่สนุกสนาน รวมทั้งเพื่อนเดินทางแสนดีอีกด้วย รถไฟของเราออกจากสถานีการ์เดอลียงตอนห้าทุ่มคงผ่านเมืองต่างๆ เยอะ เพราะเป็นรถไฟตู้นอนสุดท้ายมาถึงโมนาโกก็เช้าพอดี อากาศหนาวเย็นมากของเดือนพฤศจิกายน แม้ว่าโมนาโกจะอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียนที่เรียกว่า French Riviera อันได้ชื่อว่าเป็นย่านตากอากาศชั้นดีของฝรั่งเศสอันมีเมืองคานส์ เมืองนีซ และโมนาโก แต่ยุโรปก็คือยุโรป อากาศที่เมดิเตอเรเนียนกลับหนาวเย็นไม่น้อยไปกว่าเกาหลีหรือญี่ปุ่นด้วยแฮะ พูดถึงรถไฟ หากไม่นับพวกเราไฟด่วนหรือความเร็วสูงเช่นพวก TGV แล้ว รถไฟยุโรปก็ไม่ได้หรูหรา หรือทันสมัยไปกว่ารถไฟบ้านเรานัก โดยเฉพาะโต๊ะนอน ความเก่าของรถไฟเค้าก็ไม่ได้ดูใหม่หรือดีไปกว่าบ้านเราจริงๆ นะ ยิ่งพวกตู้นอนด้วยแล้ว แต่ก็มีความปลอดภัยสูงมากนะครับ

หลายคนคงรู้แล้ว แม้จะอยู่ในฝรั่งเศส มีความใกล้ชิดกับฝรั่งเศส และมีสโมสรฟุตบอลเป็นอันดับหนึ่งในลีกเอิงของฝรั่งเศส แต่โมนาโกเป็นประเทศอิสระภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ราชรัฐโมนาโก หรือ Principality of Monaco" โมนาโกอยู่ใต้อารักขาของฝรั่งเศส ภายใต้สัญญาว่าหากไร้ผู้สืบราชสันตติวงศ์แล้ว โมนาโกจะยอมเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส ซึ่งคงมีอีกระยะหนึ่ง กษัตริย์องค์ปัจจุบันของราชรัฐโมนาโกคือ เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ซึ่งจะเพิ่งมีเจ้าชายองค์น้อยอายุ 10 เดือนไปเมื่อต้นปีนี้เอง

ราชรัฐโมนาโกเป็นประเทศเล็กๆ อาจจะเล็กกว่าเขตบางกะปิบ้านผมเสียอีก ทัวร์ทั้งหลายจึงบรรจุโมนาโกไว้เป็นทัวร์ครึ่งวัน ผมพักอยู่ที่นี่สองคืนจึงเพียงพอที่จะสำรวจโมนาโกในมุมมองอื่นๆ ที่มีมากกว่าแค่มอนติคาโล แหล่งคาสิโนอันดับหนึ่ง ยิ่งตอนเราไปไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว โมนาโกที่นักท่องเที่ยวมีไม่มากนัก ทำให้รู้สึกดีและเรายกให้โมนาโกเป็นหนึ่งในเมืองประทับใจของเราอีกเมืองหนึ่งกันเลยครับ แล้วก็เหมือนกับรัฐเล็กๆ โดยทั่วไป ที่โมนาโกหากคุณมีเชงเก้นวีซ่าก็เข้าไปท่องเที่ยวที่ประเทศโมนาโกได้ครับ ไม่ต้องขอวีซ่าโมนาโกต่างหาก และเป็นภาคบังคับอีกต่างหากที่คุณต้องมีเชงเก้น เพราะโมนาโกไม่มีสนามบินครับ จะมาเที่ยวโมนาโก สนามบินที่ใกล้ที่สุดก็คือ สนามบินนานาชาตินีซ-โกดาซูร์ ของเมืองนีซประเทศฝรั่งเศสที่ห่างออกไป 40 กิโลเมตรครับ ซึ่งมีรถบัสไปยังเมืองมอนติคาโลตลอดครับ รวมทั้งมีรถไฟเชื่อมต่อโมนาโกกับส่วนอื่นๆ ของยุโรปอย่างฝรั่งเศส อิตาลี และสวิสเซอร์แลนด์ครับ

ที่โมนาโกแบ่งเป็น 4 เขตคือฟงวีลล์ทางใต้ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยส่วนใหญ่ โมนาโกวีลล์ตอนกลาง และเป็นย่านที่พักของคนเศรษฐีต่างๆ ที่มักจะมาซื้อบ้านแถวนี้เพราะมีท่าเรืออยู่เยอะ ลา กองดาฟีน เป็นเมืองบนเขา เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟเพียงแห่งแห่งเดียวของโมนาโกที่เชื่อมต่อโมนาโกกับยุโรป และที่พักอาศัยที่สลับกันตั้งอยู่บนเชิงเขา ที่ตั้งของพระราชวัง และสุดท้านคือ มอนติคาโล ซึ่งมีขนาดใหญ่และถูกกันให้เป็นแหล่งคาสิโน แหล่งท่องเที่ยว แหล่งช๊อปปิ้งระดับโลกที่นั้น ซึ่งทั้งหมดขอบอกว่าหากคุณมีเวลาที่นี่สักสองวัน สองเท้าของเรานี้ล่ะพาท่องเที่ยวได้หมดเลย และก็ไม่ต้องเดินขึ้นบันใดอะไรเยอะแยะ เพราะอย่างที่จะไปแถวลา กองดาฟิน ก็จะมีลิฟท์พาใต่ขึ้นได้ทุกระดับชั้นเลยครับ


เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนจะเดินทางเจาะลึกโมนาโกกัน เราไปเดินเล่นกันริมชายหาดก่อน หาดที่นี่อาจะไม่ขาวสวยเท่าที่ภูเก็ตหรือริมอันดามันบ้านเรา แต่น้ำทะเลก็สวยใสเย็นมากจริงๆ เราไม่เห็นคนเล่นน้ำทะเลที่นี่ อาจจะเพราะเป็นทะเลหน้าหนาว เลยไม่มั่นใจว่าหน้าร้อนจะมีคนเล่นน้ำทะเลหรือไม่ เพราะเห็นป้ายเตือนฉลามด้วยนะ เอาสะเราเสียวไปเลย

เราเริ่มต้นกันตรงส่วนกลางก็คือโมนาโกวิลล์กันก่อน ด้วยการลองนั่งเรือยอร์ชข้ามฝากไปที่ฟงวิลล์ ที่ฟงวิลล์เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์และสัตว์น้ำ (Oceanographic Museum and Aquarium) ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก นอกเหนือจากสัตว์ทะเลต่างๆ แล้วที่นี่ยังเก็บข้าวของต่างๆ ของเจ้าชายอับแบร์ครับ ไปดูกันครับ​

(กดภาพแรกเพื่อเข้าชมแกลอรี่ของโมนาโกทั้งหมดครับ)

จากพิพิธภัณฑ์เราเดินเล่นกันต่อที่แถวโมนาโกวิลล์ นอกจากจะได้พบกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของคนโมนาโกแท้ที่ไม่ใช่เศรษฐีที่ซื้อบ้านพักตากอากาศ ลมทะเลเย็นๆ และวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสุดลูกหูลูกตา ทำให้คิดว่าอืมคนสมัยก่อนนี่เข้าใจหาความสุขใส่ตัวจริงๆ โมนาโกจะว่าเป็นเมืองในหุบเขาก็ได้ เพราะมีภูเขาโอบล้อมอยู่สองด้านทำให้ตัดขาดจากฝรั่งเศสและอิตาลี แต่น่าจะเพราะความสามารถของกษัตริย์และชาวโมนาโกเองนั้นแหล่ะที่ทำให้ตัวเองรอดจากการถูกผนวกโดยฝรั่งเศสและอิตาลีมาตลอด บนโมนาโกวิลล์ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังของเจ้าชายอัลแบร์แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์แซงต์นิโกลาอันเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าหญิงเกรซ อดีตดาราฮอลีวู๊ดที่ทรงพระสิริโฉมและเป็นตำนานซินเดลเรลล่าตัวจริงเสียจริง เสียดายที่พระองค์ชีวิตเศร้านัก เมื่อสิ้นพระชนม์จากพระหทัยล้มเหลวจนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อต้น 50 ยังความโทมนัสมายังเจ้าชายรีนีเยร์พระสวามี และกษัตริย์องค์ก่อน และประชาชนชาวโมนาโก จึงมีการสร้างสวนกุหลาบเจ้าหญิงเกรซเพื่อระลึกถึงพระองค์ด้วยครับ

โมนาโกเป็นประเทศเล็กเดินเล่นให้หมดได้ภายในหนึ่งวันจริงๆ ครับ เรามาดูบรรยากาศต่างๆ ของเมืองก่อนจะไปปิดท้ายกันที่มอนติคาโลยามค่ำคืนครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแวะเยี่ยมชมนะครับ กดที่ภาพแรกเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมแกลอรี่ของประเทศโมนาโกได้นะครับ ขอบคุณมากครับ

Comentários


Recent Travels
bottom of page