Vaduz Lichtenstein l เมืองหลวงแสนเหงา วาดุซ รัฐลิกเตนสไตน์ l รีวิวฉบับที่ 12
- Angklish Kittichai Singha
- Oct 18, 2015
- 1 min read
เปิดเว็บมารีวิวได้ครบหนึ่งโหลแล้ว วันนี้อัดไปสามรีวิวเลยครับ อยากจะรีบพาไปเที่ยวต่างๆ เยอะ เพราะนานไปข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองมันจะเริ่มเป็นความทรงจำสีจางๆ ไปแล้วละสิ เมื่อกี้ตอนงัดโมนาโกมารีวิว ก็ต้องนั่งนึกอยู่นานว่าไปที่ไหนมาบ้าง โชคยังดีที่ความทรงจำยังพอไหว จำได้ทุกฉากทุกตอนทุกก้าวเท้าเลยสิเอ้า ซึ่งก็เพราะเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองบ่อยๆ นี่ล่ะครับ มีส่วนช่วยเยอะพอสมควร เพราะต้องทำรีเสิร์ชอะไรไว้ก่อนก็เลยจำง่ายขึ้น มาต่อด้วยรีวิวฉบับสุดท้ายของวันนี้กลับประเทศที่อยากไปมานานแล้วครับ นครวาดุซ ประเทศลิกเตนสไตน์ครับ


เดือนพฤษภาคมอากาศดีบ้างไม่ดีบ้างมีฝนประปรายปะปนกันไป บนเส้นทางรถยนต์สายออโตบาห์น 3 เรามุ่งหน้าไปทางตะวันออกจากซูริคเพื่อไปถึงฟุสเซนเยอรมัน แต่ระหว่างทางขอยอมอ้อมออกนอกเส้นทางหน่อยจากแผนเดิมที่เข้าเยอรมันด้วยผ่านเมืองลินเดาและขับลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบโบเดนซี จะได้ไม่ต้องเสียบัตรทางด่วนผ่านออสเตรีย แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไปวาดุซกันเพราะอยากไปลิกเตนสไตน์มานานแล้ว เมืองนี้แม้จะไปถึงด้วยรถไฟ แต่การนั่งรถไฟจากสวิสไปวาดุซค้องต่อหลายต่อ ยุ่งยากพอสมควรครับ ทริปยุโรปคราวนี้ขับรถกันเองก็น่าจะต้องไปให้ถึงวาดุซกันสักที ถนนของสวิสเป็นถนนดีอันดับหนึ่งของโลกจริงๆ ครับ เพียงชั่วโมงเศสลัดเลาะผ่านเส้นทางสวยงามต่างๆ แล้วเราก็มาปรากฎตัวกันที่วาดุซเสียที

แป๊บเดียวจากซูริคก้อมาถึงวาดุซแล้วครับ เมืองหลวงแห่งประเทศที่เกือบเล็กที่สุดในโลกลิคเตนสไตน์ แต่ก้อยังกว้างใหญ่กว่าโมนาโก หรืออย่างมาเก๊าอีก แม้วาดุซจะเป็นนครหลวงแต่ก้อไม่ได้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในลิคเตนสไตน์นะครบ แต่ที่เป็นเมืองหลวงเพราะเป็นที่ประทับของพระองค์เจ้าชายฮันส์ อดัมที่สอง ดยุคแห่งทรอปเปา (ในประเทศสาธารณรัฐเชค) ดยุคแห่งจาเกรินดอร์ฟ (ในประเทศสาธารณรัฐเชค) และท่านเคานต์แห่งริทแบร์ก (ในเยอรมัน) ซึ่งเป็นประมุขแห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์นั่นเองครับ
วาดุซเป็นเมืองขนาดเล็กมากๆ และอาจเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่เล็กที่สุด สถานที่ทำการรัฐบาลและรัฐสภายังเล็กมากเลยครับ พวกเราเข้าไปนมัสการพระในโบสถ์ประจำเมือง แล้วตั้งใจจะเดินขึ้นเขาไปที่พระราชวังวาดุซสักหน่อย แต่ปรากฎว่าไม่ได้ขึ้นไป เพราะวันนั้นพระองค์เจ้าชายทรงประทับอยู่พอดี ก็เลยไม่ขึ้นดีกว่าครับ

ประวัติศาสตร์ของวาดุซย้อนหลังไปได้ถึงราวปี พ.ศ. ๑๘๖๕ ร่วมสมัยกับสุโขทัย แต่อยู่มาได้เพียงร้อยกว่าปีเมืองก็โดนทำลายลงจากสงครามกับกองทัพสวิส จนในช่วงราวปีพ.ศ. ๒๑๓๒ เจ้าในตระกูลลิกเตนสไตน์ต้องการจะได้รับการยอมรับในราชวงศ์ยุโรป ก้อเลยมาซื้อที่แถวพระราชวังวาดุซเก่านั้นเองแล้วสร้างเป็นเมืองขึ้นมาโดยผนวกกับที่ดินอื่นๆ ที่ตัวเองซื้อมาด้วยอย่างในชเลนเบริ์ก ประกาศตั้งเป็นเมืองวาดุซขึ้นมา ผลจากการรวมที่ต่างๆ ที่ซื้อมานั้นทำให้ดินแดนของเมืองวาดุซกระจัดกระจาย (exclave) อยู่ในดินแดนรัฐอื่นๆ อีกด้วยครับ และก้อตั้งราชวงศ์ลิคเตนสไตน์ขึ้นมาครับ
จบแล้วครับพาเที่ยววาดุซในอึดใจเดียว ก็เป็นเมืองที่เล็กมากจริงๆ นี่นา ขึ้นไปบนพระราชวังแล้วมองมาทั้งเมือง ก็แทบจะหมดแล้วมั๊งครับ อ้อแต่ประเทศลิกเตนสไตน์ไม่ได้มีนครวาดุซแห่งเดียวนะครับ ยังมีเมืองอื่นๆ ด้วย แต่ผมว่านอกจากการขายสแตมป์แล้ว วาดุซก็ไม่มีอะไรให้เที่ยวเท่าไร มาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศได้ครับ ฝากรูปมุมอื่นๆ ของวาดุซไว้ หรือจะกดจากภาพแรก เพื่อเข้าสู่แกเลอรี่ของนครวาดุซได้นะครับ ขอบคุณมากครับ

ที่ทำการรัฐสภาครับ



Comentários