top of page

Stratford-upon-Avon I England I นั่งรถไฟไปเยือนบ้านกวีเอกเช็คเสปียร์กัน I รีวิวฉบับที่ 8

  • Writer: Angklish Kittichai Singha
    Angklish Kittichai Singha
  • Oct 10, 2015
  • 2 min read

Click to See Full Gallery of Statford Upon Avon

วันนี้พาไปเที่ยวอังกฤษกับเมืองเล็กๆ สบายครับ Stratford-upon-Avon ในเขตจังหวัดเบอร์มิงแฮมทางตอนกลางของอังกฤษ นั่งรถไฟไปไม่ไกลจากเบอร์มิงแฮม หรือถ้าจะนั่งมาจากวอร์วิคก็ได้ครับ หรือวันไหนอยู่ลอนดอนแล้วว่างๆ ไม่มีอะไรก็นั่งรถไฟจากสถานี Marylebone มาประมาณสองชั่วโมงครึ่งแล้วมาเปลี่ยนสถานีที่ Leamington Spa ครับ อาจจะไม่สะดวกหน่อยถ้ามาจากลอนดอน แต่หากต้องการขับรถมาก้อขับมาตามสาย M40 ไปทางเหนือระยะทางประมาณ 164 กิโลเมตร ครับ

เมืองเล็กๆ แบบนี้แต่นักท่องเที่ยวเยอะมากนะครับ โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้มาพักเที่ยวเบอร์มิงแฮมกันก่อนก็ได้ (พอดีผมโปรดทีมแอสตัน วิลล่าครับ เลยแวะไปนอนเบอร์มิงแฮมก่อน วันหลังเอารีวิวเมืองเบอร์มิงแฮมมาฝากกัน) เมืองนี้มีความสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวอยู่ที่เป็นเมืองที่อนุรักษ์สภาพบ้านเรือนในยุคทิวดอร์ (Tudor) ไว้เยอะพอสมควร และที่สำคัญยังเป็นบ้านเกินดของกวีเอกของอังกฤษเจ้าของวรรณกรรมก้องโลกอย่างโรมิโอและจูเลียตครับ นั้นก็คือ William Shakespere ไงครับ เมืองนี้ในปัจจุบันเลยเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่ดูแลลิขสิทธิ์งานเขียนของเชคสเปียร์อีกด้วย ส่วนรูปที่เห็นนั้นคือ ตัวละคร "ตัวตลก Joker จาก As You Like It ที่รัชกาลที 6 ทรงแปลเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระองค์ในชื่อเรื่อง ตามใจท่านครับ

ต้องแอบสารภาพกันก่อนครับว่าไปเที่ยวอังกฤษมาหลายปีแล้ว (ปีที่มีข่าวภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์นั้นแหล่ะ ตอนนั้นติดแหง่กกันที่อังกฤษเลย แล้วก็ตรงกับปีที่มีการชุมนุมทางการเมืองแบบเผานาเผาไร่นั้นแหล่ะครับ ตอนจะกลับทางอังกฤษยังอยากให้เราอยู่ต่อเลย เพราะบอกว่ากลับไปเมืองไทยมันอันตราย แหมเขาก้อไม่รู้หรอกว่าเหตุที่เกิดมันแถวกลางเมือง ไม่ใช่ทั้งประเทศเสียหน่อย นอกเรื่องอีกแล่ะ) เลยไม่รู้ว่าปัจจุบันเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไร นึกเสียว่ามานั่งไทมแมชชีนกันหรือเตรียมการบ้านกันสักก่อนก็ได้ก่อนใครจะไปเที่ยวอังกฤษกัน พูดถืงอังกฤษ สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะกังวลมากก็คือการเดินทางกับฝนฟ้าอากาศ สำหรับการเดินทางนั้นเราเดินทางกันด้วยรถไฟตลอดทุกเส้นทางครับ ซึ่งปลอดภัย ทันสมัย หายห่วง แม้คนอังกฤษเองจะรู้สึกตกใจตอนที่เราบอกว่าเดินทางด้วยรถไฟก้อเหอะ ส่วนสภาพอากาศคงต้องทำใจกันล่ะครับ เพราะความที่เป็นประเทศเกาะฝนฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากจาก หิมะ ฝน หนาว แดด เอาเป็นว่าเรามาเที่ยวกันเกือบ 20 วัน​โชคดีที่มีแค่ 3 วันฝนตก ที่เหลือครึ้มฟ้าฝนจริงๆ แต่บ่ายๆ ก็แดดแจ่มมากแล้วครับ

แต่นั้นแหล่ะครับ ตอนออกจากเบอร์มิงแฮมฝนตกหนักเลย คิดว่าจะไป SUA กันไหวไหมเนี่ย แต่กำหนดการก็ไม่อยากเปลี่ยนก็เลยไปลุยเอาดาบหน้า โชคดีไม่นานหลังฝนเทกระหน่ำ ฟ้าก็เป็นใจแจ่มเอามากๆ ครับ จากเบอร์มิงแฮมเรานั่งรถไฟกันมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงสถานีแล้วครับ ตามรูปเลย ตัวสถานียังคงรักษารูปแบบต่างจังหวัดอยู่เลย ตัวสถานีไม่ได้อยู่ในเมืองนะครับ เราต้องเดินเข้าเมืองอีกไปประมาณเกือบๆ กิโลครับ หรือจะนั่งรถบัสก็ได้ แต่เราเดินๆ ไปก่อน ดูบรรยากาศของเมืองก่อนเข้าสู่ตัวเมืองเก่าดีกว่า อ้อ ผมว่าถ้าไปในวันนี้ ตอนนี้คงมีจักรยานให้เช่าขี่ขมเมืองแล้วล่ะครับ เห็นเมืองเล็กๆ แบบนี้ก็เดินเอาแฮ่กเหมือนกันนะ

เมือง Stratford มีหลายแห่งนะครับในอังกฤษ แต่ที่นี้ต้องเป็นเมือง Stratford upon Avon เพราะมีแม่น้ำเอว่อน หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของอังกฤษโดยเฉพาะเป็นธารประวัติศาสตร์ไหลผ่าน คำว่า Strat-ford เองก็เป็นภาษาเคลท์โบราณแปลว่ามีที่ๆ มีแม่น้ำผ่ากลางเมืองอะไรประมาณนั้น เมือง SUA ขอเรียกสั้นๆ แบบนี้ล่ะกันนะครับ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เป็นชุมชมโบราณที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นเมืองทางผ่านที่ไปยังลอนดอน เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นเมืองที่เป็นบ้านเกิดของเช็คสเปียร์อย่างที่บอกไปแล้ว ดังนั้นเมืองจึงมีส่วนที่เป็นเมืองสมัยใหม่ กับย่าน Old Town ที่เราจะไปเดินเล่นกันครับ อ้อทั้งเมืองมีประชากรรวมกันไม่น้อยนะครับ 25,000 คน

ตัวเมืองเก่านั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก เดินเล่นๆ ชมเมืองกันสักสองสามชั่วโมงก็รอบแล้วครับ ถ้าใครมีเวลาเหลือๆ ก็อาจซื้อทัวร์ชมเมือง เป็นการนั่งรถซึ่งนอกจากจะไม่เหนื่อยแล้ว เดี๋ยวนี้ทัวร์มีพาออกไปนอกเมืองด้วยนะครับ เพราะใกล้ๆ กันคือหมู่บ้านช๊อททรี่ที่เป็นบ้านพักของ Ann Hatthaway แต่แอนนคนนี้ไม่ใช่นักแสดงสุดสวยมากความสามารถจาก the Princess's Diary และ Les Misérables คนนั้นนะครับ แต่เป็นภรรยาของเช็คสเปียร์เค้าครับ ชื่อเดียวกันเลย

แต่มาถึงนี้แล่ะใครล่ะอยากจะไปชมบ้านของแอนกัน นี่มันต้องหลังนี้สิครับบ้านของเช็ตสเปียร์ มีทั้งตัวบ้านและสวนที่ทางการอังกฤษสตัฟฟ์ไว้ยังคงเก็บรักษาและอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ 16 ช่วงตรงกับไทยประมาณสมัยสมเด็จพระนเรศวรเลยครับร่วมสมัยกัน หลังที่เห็นนี่ละครับบ้านของเช็ตสเปียร์กวีเอกผู้แต่งโรมิโอกับจูเลียต แมคเบธ จูเลียสซีซ่าร์ เป็นต้น (ทุกเรื่องต้องขอบคุณฮอลีวู๊ดด้วยนะ) เช็คสเปียร์เกิดเมื่อปี 1564 โดยดูจากบันทึกวันที่ท่านได้เข้าทำพิธีศีลจุ่ม โดยเป็นบุตรคนที่สามของจอนห์ เช็คสเปียร์และแมรี่ อาร์เดน ใครเคยดู Shakespeare in Love จะทราบว่าเขาแต่งงานตอนอายุ 18 ปี กับหญิงสาวที่แก่กว่าตัวเองถึง 8 ปี ก็คือ Anne Hathaway ก็ไปทำเขาท้องนี่นา (คงเจ้าชู้มาก) และมีลูกสาวด้วยกันคือ Susana ตัว Anne เองไม่เคยออกไปไหนจาก Startford เลยครับ บ้านของ Anne อยู่นอกเมืองออกไปกิโลกว่า ใครมีเวลาก็นั่งรถไฟแล้วลงที่สถานทีก่อนหน้า Startford ได้เลยครับ บ้าน Anne อยู่ที่นั่น

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมบ้านของเช็ตสเปียร์ได้นะครับ บางรอบมีการแสดงในสวนด้วย แต่เราไปเดินดูในส่วนอื่นๆ ของเมืองบ้างดีกว่า โดยจะมุ่งไปริมแม่น้ำเอว่อน ขอพักทานข้าวกล่องกันสักหน่อย โดยริมแม่น้ำจะได้เห็นไฮไลท์ของเมือง SUA อย่างสะพานคล๊อปตัน (Clopton Bridge) สะพานนี้สร้างมาเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1480 และเป็นเส้นทางจราจรสำคัญในการเข้าไปสู่ลอนดอนตามความเจริญของ SAU ที่สูงขึ้นตามลำดับ ก่อนที่จะถูกทำลายไปเพื่อหยุดกองทัพของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ และมาบูรณะใหม่เมื่อปี 1827 สัญลักษณ์ของสะพานนี้ก็คือทรงโค้งที่มีถึง 14 อันด้วยกัน

อากาศริมแม่น้ำเอว่อน เย็นสบายเอามากๆ ยิ่งรับกับแดดอุ่นๆ แล้วอยากหลับมากเสียริมน้ำ ริมแม่น้ำในสวน Bancroft Garden มีน้ำพุชื่อ Christian Lee Foutain เป็นรูปหงส์คู่ เขาเป็นใครไม่รู้หรอกแต่ว่เขาเป็นคนสร้างน้ำพุนี้ขึ้นเป็นที่ระลึก 800 ปีของการออกพระราชบัญญัติคุ้มครองตลาดครับ

ไม่ไกลจากสวนและอยู่ริมแม่น้ำนี้ล่ะครับ เป็นที่สุดท้ายที่จะพาเที่ยววันนี้แล้วเป็นโบสถ์ประจำเมืองครับ Holy Trinity Church หรือโบสถ์แห่งพระตรีเอกภาพของเมืองสแตร๊ตเฟริ์ด เป็นโบสถ์โรมันคาธอลิกห่างจากตัวเมืองเก่ากิโลเมตรกว่าๆ ครับ เดินได้สบาย สำหรับโบสถ์นี้ก็เป็นโบสถ์ที่ฝังศพของท่านกวีเอกนั้นแหล่ะครับ

จบการท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ SUA กันวันนี้แล้วครับ ปิดกันด้วยภาพบรรยากาศริมน้ำสบายๆ และมุมอื่นๆ ของเมืองนี้ก่อนจะจากกันไปชมรีวิวที่อื่นกันต่อ ถ้าท่านไหนอยากชมภาพอื่นๆ ของเมือง Stratford Upon Avon นี้ คลิกที่รูปตัวตลกในภาพแรกได้เลยครับ จะลิงค์ไปที่แกลอรี่ครับ ส่วนใครถ้ามาที่นี้แล้วได้นอนค้างล่ะก็ แนะนำให้ไปทัวร์นั่งเรือล่องแม่น้ำยามสนธยาฟังเรืองผีๆ สางๆ ครับ เพราะที่อังกฤษนี้ขึ้นชื่อว่าผีดุมาก ส่วนผมล่ะก็ขอลาขาดครับ ไม่เอาล่ะ เจอกันกกระทู้หน้าครับ สวัสดีครับ

Comments


Recent Travels
bottom of page